PHP เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่นักพัฒนาเว็บไซต์หรือโปรแกรมเมอร์นิยมใช้กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งนักพัฒนาเว็บไซต์หลายๆท่านคงจะทราบอยู่แล้วว่า PHP5.6 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของ PHP5.x และ PHP7.0 ได้หยุด support และหยุด update security ไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งหากผู้ใช้เว็บไซต์รายใดยังคงใช้งาน PHP เวอร์ชั่นดังกล่าวอยู่นั้นจะมีความเสี่ยงที่จะถูกผู้ไม่หวังดีโจมตีเว็บไซต์โดยผ่านทาง source code ได้อย่างง่ายดาย
โดยในขณะนี้ทำให้มี PHP เวอร์ชันที่ซัพพอร์ตเพียง 2 รุ่นเท่านั้นคือ PHP 7.1 ซึ่งมีการซัพพอร์ตถึงเดือน ธันวาคม 2019 และ PHP 7.2 มีการซัพพอร์ตถึงเดือน พฤศจิกายน 2020 ทาง HostPacific ขอแนะนำว่าควรเลือกใช้งาน PHP 7.2 แทน PHP7.1เนื่องจากจะหมดระยะซัพพอร์ตช้าที่สุด โดยในบทความนี้ HostPacific จะมาแนะนำวิธีการตรวจสอบเวอร์ชั่นของ PHP และการเปลี่ยนเวอร์ชั่นของ PHP ได้ง่ายๆผ่าน Control Panel cPanel นั่นเอง
วิธีการตรวจสอบเวอร์ชั่น PHP ดังนี้
- ทำการสร้างไฟล์ info.php หรือ phpinfo.php ลงใน directory public_html
- เขียนโค้ดลงในไฟล์ดังกล่าว
จากนั้นกด Save
3. เปิด browser ของท่านแล้วเรียกหน้าเว็บไซต์ดังนี้ http://xxx.com/info.php
ท่านจะพบว่าเวอร์ชั่นของ PHP ที่ใช้งานอยู่นั้นเป็นเวอร์ชั่นอะไร ในที่นี้ตัวอย่างของเราจะแสดง PHP เวอร์ชั่น 5.5.38 ซึ่ง end of life ไปแล้วนั่นเอง
โดยลูกค้า HostPacific สามารถทำการเปลี่ยนเวอร์ชั่นของ PHP ได้ผ่านหน้า cPanel ดังนี้
- Login cPanel ด้วยลิงค์ที่ลูกค้าใช้งานอยู่ กรอก Username&Password ของท่าน
- ไปที่ เมนู software > เลือก MultiPHP Manager
- ให้กดเลือกที่ช่องสี่เหลี่ยมซ้ายมือของโดเมนที่ต้องการ จากนั้นทำการเลือกเวอร์ชั่นของ PHP ด้านขวามือ เมื่อเลือกเรียบร้อยให้กด Apply
- จากนั้น ให้ทำการเปิด browser ของท่านแล้วเรียกหน้าเว็บไซต์อีกครั้ง http://xxx.com/info.php จะพบว่าเวอร์ชั่นของ PHP ได้เปลี่ยนไปตามที่ท่านเลือกไว้
เมื่อมีการเปลี่ยนเวอร์ชั่นของ PHP ให้เป็นเวอร์ชั่นที่ใหม่ขึ้นแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ของท่านทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ ท่านจะต้องปรับแก้ไข source code ให้รองรับกับ PHP เวอร์ชั่นใหม่ในอนาคตต่อไปค่ะ HostPacific หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะสามารถเป็นแนวทางให้ท่านในการวางแผนการเปลี่ยนเวอร์ชั่นของ PHP เพื่อป้องกันปัญหาการถูกแฮกวางไฟล์ได้มากยิ่งขึ้นค่ะ